เคล็ดลับการทำคะแนนสอบ IELTS Speaking
1.) เรียนเรื่องหลักการออกเสียงที่ถูกต้อง คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า 80 % ของคำศัพท์ที่เราออกเสียงพูดกันอยู่นั้น ผิดจากการออกเสียงที่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ด้านล่างนี่คือตัวอย่างคำศัพท์ง่ายๆที่นักเรียนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองรู้ความหมายและออกเสียงได้ถูกต้อง แต่ผลการทดสอบจากนักเรียนกว่า 100 คน พบว่ามากกว่า 95% ออกเสียงถูกต้องเพียง 4-5 คำจาก 20 คำ คือออกเสียงถูกแค่ 20 % ไม่ว่าจะเป็นการเน้นคำ(stress)ผิดที่ หรือออกเสียงผิด(wrong sound)ไปเลย
2.) ฝึกสร้างเนื้อเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ ปัญหาหลักอีกข้อของการได้คะแนนพาร์ท Speaking ต่ำ คือนักเรียนหรือคนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดได้อย่างต่อเนื่องคือต้องพูดไป..คิดไป ไม่มีเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่ในความทรงจำ ทำให้พอเวลาถูกถามคำถามที่เป็นทางการและต้องมีการอธิบายเหตุการณ์หรือประสบการณ์นั่นๆ ก็ทำให้เราต้องใช้เวลาคิดนาน ไม่มีความรื่นไหลในการตอบเพราะต้องพยายามคิดเรื่องราวและสร้างเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ต้องกังวลทั้งเรื่องคำศัพท์ ไวยกรณ์ และการออกเสียง จึงทำให้พาร์ท Speaking นี้ถือเป็นพาร์ทที่เพิ่มคะแนนได้ยากที่สุดสำหรับหลายๆคน
เทคนิควิธีการที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ ให้เลือกตัวอย่างคำถามในการสอบ IELTS Speaking มา 5 - 6 คำถามในแต่ละหัวข้อหลักทั้ง 12 เรื่องที่ใช้ในการออกข้อสอบ ก็จะได้คำถามประมาณ 60 - 70 ข้อขึ้นไป เตรียมคำตอบที่เป็นเนื้่อเรื่องจากประสบการณ์จริงของเรา โดยใช้รูปประโยค วลี คำศัพท์ ที่เป็น Academic English และตอบโจทย์คำถามแต่ละข้ออย่างตรงประเด็น ไม่ออกนอกเรื่อง ไม่เน้นว่าจะต้องเป็นประโยคที่ซับซ้อนหรือใช้คำศัพท์ที่ยากมากๆ แต่ให้เป็นวลี ประโยค และคำศัพท์ที่นิยมใช้กันอย่างเป็นทางการ เข้าใจได้ง่ายโดยเจ้าของภาษา
3.) อย่ากังวลกับการแสดงออกของ Examiners จากประสบการณ์การสอบIELTS มา 11 ครั้งของผม หรือใครที่เคยสอบIELTSมาแล้วหลายครั้งน่าจะสังเกตุเห็นได้ว่าExaminers เหมือนจะมีลักษณะการแสดงออกอยู่ 2 ประเภทคือแบบที่ดู Friendly และแบบที่ดู Serious คือจะเห็นว่าExaminersบางคนท่าทางใจดี ยิ้มแย้มและดูเหมือนให้กำลังใจเรา แสดงความพยายามที่จะเข้าใจในสิ่งที่เราพูดออกไป แต่บางคนก็จะมีทำท่าเคร่งขรึม ดูไม่ค่อยเป็นมิตร แสดงอาการเหมือนฟังเราไม่ค่อยเข้าใจ บางทีก็จะทำท่าจดโน้ตบางอย่างเหมือนกับว่ามีบางอย่างผิดพลาดในการตอบของเรา เคล็ดลับก็คือว่า ไม่ว่าคุณจะเจอ Examiners ประเภทไหน ไม่ต้องไปสนใจหรือกังวลกับการแสดงออกอากัปกิริยาของExaminersทั้ง 2 ประเภทครับ ท่าทางการแสดงออกทั้งสองแบบนั้นไม่ได้มีความหมายว่าเขาใช้บรรทัดฐานในการให้คะแนนที่แตกต่างกัน จงแสดงความเชื่อมั่นและโฟกัสในสิ่งที่เรากำลังอธิบาย เรียบเรียงและพูดออกไปให้ถูกต้องมากที่สุดเท่าที่เราเตรียมความพร้อมมา
4.) ฝึกใช้คำถ่วงเวลาเมื่อคิดไม่ออก ในบางครั้งเป็นไปได้ว่าเราจะต้องใช้เวลาคิดมากขึ้นสำหรับคำถามที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน แต่การหยุดคิดอยู่เฉยๆโดยไม่พูดอะไรหรือพูดออกมาแบบติดๆขัดๆจะทำให้เราเสียคะแนนในส่วนของความคล่องตัวในการพูดทันที(Fluency) ประโยคในการยืดเวลาในการคิดคำตอบจึงมีความสำคัญและช่วยเราได้ เช่น
When we talk about this topic, I think one of the most important things that we need to concern/think/realise is...................................
It's a good question but let me think for a while since I've rarely had that kind of experience before. Well, I think that....................
Oh! it's quite a difficult question for me. I truly have no idea about this issue/topic, but let me try this way. Ok...If I am not mistaken(ถ้าฉันจำไม่ผิด) I believe that........................
ประโยคเหล่านี้ช่วยยืดเวลาในการคิดคำตอบ ช่วยทำให้เราดูดีขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ และไม่ทำให้เราเสียคะแนนในเรื่องความคล่องตัวในการพูด(Fluency) อีกด้วย
.....ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะครับ.....
All the best,
Voravisuth Vacharabenjapat (Arjan.A)
REALISTIC ENGLISH
Practical ways to overcome IELTS