รายละเอียดขนมไทย
ReadyPlanet.com

 



รายละเอียดขนมไทย


ขนมไทย ขนมโบราณ แต่ละภาคของประเทศไทย

ขนมไทยโบราณ เป็นของหวานที่นิยมทำแล้วก็กินกันในประเทศไทย สะท้อนถึงเอกลัษณ์ทางด้านวัฒนธรรมประจำชาติ โดยแสดงถึงความประณีต ความละเอียดรอบคอบ และก็ความปราณีตตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ จนกระทั่งขึ้นตอนกระบวนการทำอย่างกลมกลืนของศาสตร์แล้วก็ศิลป ทำให้ขนมไทยโบราณสะดุดตาในด้านรสที่อร่อยหอมหวาน สีสัน รูปลักษณ์ สวยสดงดงาม เชื้อเชิญน่าอร่อย เป็นที่ถูกตาจะต้องลิ้นแก่คนซื้อทั้งยังคนประเทศไทย และก็คนต่างชาติ

ตอนนี้ขนมไทยโบราณ แทรกสอดอย่างกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของวัฒนธรรมประจำชาติ มีหน้าที่สำคัญในพิธีกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานทำบุญ เทศกาล หรือจารีตประเพณี ที่สำคัญ อันสะท้อนถึงวัฒนธรรมและก็วิถีชีวิตชีวิตความเป็นอยู่ของแต่ละชุมชนได้เป็น อย่างยอดเยี่ยม นอกเหนือจากนี้ขนมไทยโบราณยังแอบความหมายอันเป็นมงคลไว้อย่างน่า พึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานมงคลสมรส ก็จะมีขนมไทยโบราณ ความหมายดีๆประกอบอยู่ในพิธีการอย่างขาดเสียมิได้ (อาทิเช่น ของหวานถ้วยฟู มีความ หมายแอบแฝงเป็น การรุ่งเรือง / ขนมชั้น แสดงถึงการได้เลื่อนขึ้นชั้น เลื่อนขั้น เจริญ ฯลฯ)
 
ขนมไทยโบราณ บางทีอาจแบ่งออกได้เป็น 4 กรุ๊ปหลักเป็น
1. ของหวานชาววัง : เป็นขนมไทยโบราณที่ใช้ความอ่อนโยน ประดิดประดอยหลาย ขั้นตอน สูตรต้นตำหรับมีต้นเหตุมาจากการค่าความนิยมที่คนโบราณมักส่งบุตรหลานที่ เป็นสตรีเข้าไปในวัง เพื่อมอบตัวรับใช้นายจ้างในพระราชวังต่างๆโดยมีการฝึกซ้อม ฝืมือด้านต่างๆอย่างวิถีของชาววัง รวมทั้งการฝีกทำกับข้าวและก็ของหวานด้วย ขนมไทยโบราณ ชาววังก็เลยขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของความละเอียด เรียบร้อยงดงาม ละเอียดลออในทุกขั้นตอนของการ ทำรวมทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบ แบบอย่างของของหวานชาววังอย่างเช่น ของหวานลูกชุบ ขนมเบื้อง วุ้นน้ำกะทิ วุ้นสังขยา ของหวานไข่*** ฯลฯ
 
2. ของหวานราษฎร (หรือของหวานตามฤดูกาล) : เป็นขนมไทยโบราณที่ทำไม่ยากไม่ประณีตบรรจงมากมาย วัตถุดิบที่ใช้ ชอบคือผลไม้ที่หาได้ตามฤดูกาล มักทำกันทานข้างในครอบครัว โดยย้ำทำรับประทาน เอง เหลือก็สามารถนำไปขายได้ แบบอย่างของขนมไทยโบราณราษฎร ดังเช่นว่า ฟักทองเชื่อม กล้วยไข่เชื่อม กล้วยตาก ฯลฯ นอกเหนือจากผลไม้ที่หาได้ตามฤดูกาลแล้ว วัตถุดิบ หลักอื่นๆที่ใช้ก็ชอบเป็นสิ่งที่หาได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่นข้าวเจ้า ข้าวเหนียว มะพร้าว เอามาผสม กับน้ำตาล ทำเป็นของหวานได้หลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นของหวานแฉะปูน ขนมจาก ของหวานขี้หนู ขนมตะโก้ ของหวานน้ำดอกไม้ รวมทั้งฯลฯ สำหรับผลไม้ที่เหลือเกินกิน ก็จะเอามารักษาอาหารด้วย ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสามารถเก็บไว้กินได้นานๆเป็นต้นว่า ทุเรียนกวน มะม่วงกวน กล้วยตาก กล้วยฉาบ ฯลฯ
 
3. ขนมไทยโบราณที่ใช้ในงานจารีตประเพณี และก็ศาสนา : ขนมไทยโบราณในกลุ่มนี้จะแทรกสอดอยู่ ในงานขนบธรรมเนียมต่างๆรวมทั้งงานทำบุญทางศาสนาด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในขนบธรรมเนียมปีใหม่ ของไทย (วันสงกรานต์) นอกเหนือจากมีการทำบุญทำกุศลใส่บาตร รดน้ำดำหัวแล้ว ชาวไทยใน สมัยก่อนนิยมทำของหวาน กาละแมร์ รวมทั้งข้าวเหนียวแดงเพื่อมอบพระรวมทั้งแบ่งให้เพื่อนบ้านอีกด้วย นอกนั้น ในตอนวันสารทไทย ก็ชอบนิยมทำของหวาน "กระยาสารท" เพื่อทำบุญทำกุศล นึกถึงบรรพชนที่ตายไปแล้ว โดยจะใส่บาตรด้วยกระยาสารทที่ตัดเป็นชิ้นๆแล้ว ห่อด้วยใบกล้วยคู่กับกล้วยไข่เป็นของแกล้มกัน
 
4. ขนมไทยโบราณที่ใช้กับงานมงคล : งานมงคลต่างๆชอบมีขนมไทยโบราณความหมายดีๆประกอบอยู่ในพิธีการอย่างขาดเสียมิได้ ไม่ว่าจะเป็นงานบรรพชา งานมงคลสมรส งานขึ้นบ้านใหม่ โดยงานมงคลกลุ่มนี้ชอบมีการทำบุญทำกุศลเลี้ยงพระ แบบอย่างขนมไทยโบราณที่ใช้ในงานมงคลอย่างเช่น ขนมชั้น เม็ดขนุน ของหวานถ้วยฟู ของหวานปุยฝ้าย ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีของหวานที่มีคำว่าทองคำทั้งหลายแหล่ ตัวอย่างเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองคำ ทองเอก ทองพลุ เพื่อสื่อความหมายนัยว่า ทรัพย์สินจะได้ไหลมาเทมา ส่วนเม็ดขนุนก็สื่อถึงแนวทางการทำภารกิจอะไรก็แล้วแต่ก็จะเสร็จไปได้ ด้วยดี มีคนช่วยเหลือส่งเสริมให้งานเสร็จ ของหวานถ้วยฟู / ปุยฝ้าย สื่อถึงความรุ่งโรจน์ ส่วนในงานพบปะสังสรรค์เลื่อนตำแหน่งเลื่อนฐานะ ก็ชอบมีของหวานนายสิบมงกุฏ เพื่อสื่อถึงตำแหน่งตำแหน่ง ที่เพิ่มสูงมากขึ้น ฯลฯ
 
ขนมไทยโบราณนั้นกำเนิดมีมานานแล้วตั้งแต่เมืองไทยยังเป็นสยามประเทศ ซึ่งยุคนั้นได้ติดต่อ ค้าขายกับฝรั่ง โดยมีการเปลี่ยนต่อเนื่องกันทั้งยังทางด้านผลิตภัณฑ์แล้วก็วัฒนธรรม ขนมไทยโบราณในสมัยแรกๆเป็นเพียงแต่นำข้าวไปตำหรือบดให้ได้แป้ง และก็นำไปผสมกับน้ำตาล หรือมะพร้าว เพื่อทำเป็นของหวาน แต่ว่าภายหลังจากการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ วัฒนธรรมด้านของกินของฝรั่งก็เข้ามามีผลกระทบกับของกินไทยเยอะขึ้น ของหวานก็ด้วยเช่นเดียวกัน ขนมไทยโบราณ ก็เลยมีความมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบันนี้ยังยากที่จะแยกออกว่า ของหวานใดเป็นขนมไทยโบราณแท้
 
ท้าวทองคำกีบม้า - ราชินีขนมไทยโบราณ สมัยที่ขนมไทยโบราณมีความมากมายหลายรวมทั้งรุ่งโรจน์ที่สุดเป็น ตอนที่สตรีชาวประเทศโปรตุเกส "มารี กีมาร์ เดอปิน่า " ได้แต่งงานกับเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ จนได้รับการตั้งเป็น ท้าวหญิงวิชาเยนทร์ ถัดมาได้บรรดาศักดิ์ เป็น " ท้าวทองคำกีบม้า "
 
โดยรับราชการในราชสำนัก ตำแหน่ง "หัวหน้าห้องเครื่องต้น" คาดการณ์ว่าชื่อตำแหน่ง ทองคำกีบม้า คงจะสติไม่ดีมาจากชื่อ "โคนงกีมาร์" นั้นเอง ระหว่างที่รับราชการอยู่นั้น ท้าวทองคำกีบม้าได้สอนวิธีการทำของหวานตำรับของชาวประเทศโปรตุเกส แก่คนใช้ ของหวานพวกนั้นตัวอย่างเช่นทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทองคำ สังขยา หม้อแกง อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ถัดมามีการเผยแพร่สอนต่อกันมา จนกระทั่งของหวานของท้าวทองคำกีบม้า มีชื่อเสียงของคนสามัญ ก็เลยมีคนเชิดชูท้าวทองคำกีบม้าให้เป็น "ราชินีขนมไทยโบราณ"


ผู้ตั้งกระทู้ Kittisak (somsak-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2021-12-15 16:24:20


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล